แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕
**************************
1. พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้ไว้ ณ วันใด
ก. ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ค. ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕
ข. ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ง. ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕
ตอบ ค. ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕
2. พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ มีกี่มาตรา
ก. 70 มาตรา ค. 80 มาตรา
ข. 90 มาตรา ง. 93 มาตรา
ตอบ ง. 93 มาตรา
3. พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับที่ ๓) คือปี พ.ศ.ใด
ก. พ.ศ.2544 ค. พ.ศ.2552
ข. พ.ศ.2550 ง. พ.ศ.2555
ตอบ ง. พ.ศ.2555
4. ข้อใด ไม่ใช่ วัตถุอันตราย
ก. วัตถุมีพิษ ค. วัตถุเจือปน
ข. วัตถุระเบิดได้ ง. วัตถุไวไฟ
ตอบ ค. วัตถุเจือปน
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
“วัตถุอันตราย” หมายความว่า วัตถุดังต่อไปนี้
(๑) วัตถุระเบิดได้
(๒) วัตถุไวไฟ
(๓) วัตถุออกซิไดซ์และวัตถุเปอร์ออกไซด์
(๔) วัตถุมีพิษ
(๕) วัตถุที่ทำให้เกิดโรค
(๖) วัตถุกัมมันตรังสี
(๗) วัตถุที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
(๘) วัตถุกัดกร่อน
(๙) วัตถุที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
(๑๐) วัตถุอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นเคมีภัณฑ์หรือสิ่งอื่นใด ที่อาจทำให้เกิดอันตรายแก่บุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อม
5. ใครเป็นประธานในคณะกรรมการวัตถุอันตราย
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ค. อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน
ข. ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ตอบ ข. ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
มาตรา ๖ ให้มีคณะกรรมการวัตถุอันตรายคณะหนึ่ง ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานกรรมการ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก อธิบดีกรมการค้าภายใน อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน อธิบดีกรมประมง อธิบดีกรมปศุสัตว์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนกระทรวงคมนาคม ผู้แทนสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกินสิบคนเป็นกรรมการ และอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นกรรมการและเลขานุการ และผู้แทนกรมธุรกิจพลังงาน ผู้แทนกรมโรงงานอุตสาหกรรม ผู้แทนกรมวิชาการเกษตร ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และผู้แทนสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
6. ข้อใดคือหน้าที่ของคณะกรรมการวัตถุอันตราย
ก. ให้คำแนะนำแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในการรับขึ้นทะเบียน หรือเพิกถอนทะเบียนวัตถุอันตราย
ข. พิจารณาเรื่องร้องเรียนจากผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากวัตถุอันตราย
ค. กำหนดนโยบาย มาตรการและแผนการกำกับดูแลวัตถุอันตรายเมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปเป็นแนวทางปฏิบัติ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๗ ให้คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) กำหนดนโยบาย มาตรการและแผนการกำกับดูแลวัตถุอันตรายเมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปเป็นแนวทางปฏิบัติ
(๑/๑) ให้ความเห็นแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในการออกประกาศตามมาตรา ๑๘ วรรคสอง และมาตรา ๓๖ วรรคหนึ่ง
(๒) ให้ความเห็นต่อรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบในการออกประกาศตามมาตรา ๒๐ มาตรา ๒๐/๑ มาตรา ๓๖ วรรคสาม มาตรา ๓๗ วรรคสอง มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๔ และมาตรา ๔๗ (๕)
(๓) ให้คำแนะนำแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในการรับขึ้นทะเบียน หรือเพิกถอนทะเบียนวัตถุอันตราย
(๔) ให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาแก่รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานผู้รับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ ในเรื่องใด ๆ เกี่ยวกับวัตถุอันตราย
(๕) พิจารณาเรื่องร้องเรียนจากผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากวัตถุอันตราย
(๖) แจ้งหรือโฆษณาข่าวสารเกี่ยวกับวัตถุอันตรายให้ประชาชนได้ทราบ ในการนี้จะระบุชื่อของวัตถุอันตรายหรือชื่อของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องด้วยก็ได้
(๗) สอดส่องดูแล ให้คำแนะนำ และเร่งรัดพนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับวัตถุอันตรายต่าง ๆ ให้ปฏิบัติการตามอำนาจและหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
(๘) เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการควบคุมวัตถุอันตรายและการป้องกันและเยียวยาความเสียหายอันเกิดจากวัตถุอันตรายเพื่อเป็นแนวปฏิบัติในการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ
(๙) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่มีกฎหมายกำหนดไว้ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ
7. คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 3 ปี ค. 5 ปี
ข. 2 ปี ง. 4 ปี
ตอบ ก. 3 ปี
มาตรา ๘ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสามปี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันไม่ได้
8. ศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรายจัดตั้งขึ้นในหน่วยงานใด
ก. กระทรวงอุตสาหกรรม ค. กระทรวงกลาโหม
ข. กระทรวงพลังงาน ง. กระทรวงสาธารณสุข
ตอบ ก. กระทรวงอุตสาหกรรม
มาตรา ๑๗ ให้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรายขึ้นในกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานงานในเรื่องข้อมูลของวัตถุอันตรายกับส่วนราชการต่าง ๆ รวมทั้งจากภาคเอกชน เพื่อรวบรวมและให้บริการข้อมูลทุกชนิดเกี่ยวกับวัตถุอันตรายตั้งแต่การมีอยู่ในต่างประเทศ การนำเข้าหรือการผลิตภายในประเทศ การเคลื่อนย้าย การใช้สอย การทำลาย และการอื่นใดอันเกี่ยวเนื่อง
9. วัตถุอันตรายแบ่งออกตามความจำเป็นแก่การควบคุม ได้กี่ชนิด
ก. 3 ชนิด ค. 2 ชนิด
ข. 4 ชนิด ง. 5 ชนิด
ตอบ ข. 4 ชนิด
10. วัตถุอันตรายที่ห้ามมิให้มีการผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครอง คือวัตถุอันตรายชนิดที่เท่าใด
ก. ชนิดที่ 1 ค. ชนิดที่ 3
ข. ชนิดที่ 2 ง. ชนิดที่ 4
ตอบ ง. ชนิดที่ 4
มาตรา ๑๘ วัตถุอันตรายแบ่งออกตามความจำเป็นแก่การควบคุม ดังนี้
(๑) วัตถุอันตรายชนิดที่ ๑ ได้แก่วัตถุอันตรายที่การผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครองต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด
(๒) วัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ ได้แก่วัตถุอันตรายที่การผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครองต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อนและต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดด้วย
(๓) วัตถุอันตรายชนิดที่ ๓ ได้แก่วัตถุอันตรายที่การผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครองต้องได้รับใบอนุญาต
(๔) วัตถุอันตรายชนิดที่ ๔ ได้แก่วัตถุอันตรายที่ห้ามมิให้มีการผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครอง
ถาม – ตอบ
หลักความปลอดภัยในการทำงาน
1. การจำแนกจัดลำดับประเภทและชนิดของโรงงานอุตสาหกรรมตาม พรบ.โรงงานมีกี่หมวด
ตอบ 9 หมวด คือ
หมวด1. การผลิตอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ
หมวด2. การผลิตสิ่งทอ สิ่งถัก เครื่องแต่งกาย หนังสัตว์และผลิตภัณฑ์หนังสัตว์
หมวด3. การผลิตไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ รวมถึงเครื่องเรือน
หมวด4. การผลิตกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ การพิมพ์ การพิมพ์โฆษณา
หมวด5. การผลิตเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี น้ำมันปิโตรเลียม ถ่านหิน ยาง พลาสติก
หมวด6. การผลิตผลิตภัณฑ์จากแร่อโลหะ ยกเว้นผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปิโตรเลียมและถ่านหิน เช่น แก้ว ปูน หิน
หมวด7. อุตสาหกรรมโลหะขั้นมูลฐาน เช่น ท่อเหล็ก เหล็กเส้น
หมวด8. อุตสาหกรรมการผลิต ผลผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ต่างๆ
หมวด9. อุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆ เช่น เครื่องดนตรี เครื่องเขียน ร่ม เครื่องกีฬา
2. แนวโน้มของการประสบอันตรายจากการทำงานในสถานประกอบการในประเทศไทยเป็นอย่างไร
ตอบ - จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปีตามจำนวนการเพิ่มขึ้นของผู้ปฏิบัติงาน
- กลุ่มผู้ประกอบอาชีพสำคัญมี 2 กลุ่มคือ ด้านอุตสาหกรรม และด้านเกษตรกรรม
- แนวโน้มของการประสบอันตรายจากการทำงานในสถานประกอบการในประเทศไทยดูได้จากสถิติด้านการประสบอุบัติเหตุของกองทุนเงินทดแทน
3. สาเหตุของการประสบอุบัติเหตุอันตรายเนื่องมาจากอะไร
ตอบ จำนวนสถานประกอบการที่เพิ่มขึ้น จำนวนผู้ปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น ชั่วโมงการทำงานเพิ่มขึ้น มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเพิ่มผู้ปฏิบัติงานปรับตัวไม่ทันกับเทคโนโลยีใหม่ๆนั้น การเตรียมตัวของผู้ปฏิบัติงานไม่ดีพอ นายจ้างไม่สนใจในงานความปลอดภัย มีการรีบเร่งผลิตสินค้า ผู้ปฏิบัติงานมีเวลาพักผ่อนน้อย ภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมรัดตัว
4. นโยบายของหลักการจัดการความปลอดภัยในโรงงานต้องเป็นอย่างไร
ตอบ นโยบายด้านความปลอดภันที่เด่นชัด เป็นลายลักษณ์อักษร ครอบคลุม มีการประชาสัมพันธ์เข้าใจง่าย
5. การจัดองค์กร ด้านความปลอดภัยขึ้นอยู่กับอะไร
ตอบ ขนาด จำนวนพนักงาน ทัศนคติการสร้างเครือข่ายงานในรูปของคณะกรรมการด้านความปลอดภัย safety committee ที่มาจากแต่ละแผนก
6. บุคคลากร ที่ทำงานด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
ตอบ ต้องมีคุณสมบัติเหมาะสม มีความรู้ความสามารถ ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ผ่านการอบรม มีวุฒิการศึกษา มีใบอนุญาต
7. การจัดการด้านสารเคมีในโรงงาน ต้องมีมาตรการอย่างไร
ตอบ การจัดการด้านสารเคมีในโรงงาน ต้องมีมาตรการควบคุมป้องกันที่ดี
- การจัดระบบคลังข้อมูลด้านสารเคมี ที่มีรายละเอียดการใช้การป้องกันเพียงพอ มีการปรับปรุงเสมอ
- การจัดการเกี่ยวกับการสัมผัสสารอันตรายที่เป็นพิษ ต้องจัดเก็บ-เคลื่อนย้ายตามมาตรฐาน
- ระบบการตรวจสอบและเฝ้าระวัง เช่นการติดตั้งเครื่องมือวัด เครื่องมือเตือนภัย มีการเก็บข้อมูลการตรวจวัดเป็นระบบ
8. การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในการทำงานด้านกายภาพ ควรทำอย่างไร
ตอบ 1.การป้องกันอันตรายจากเสียง มีการตรวจวัดเสียงภายในโรงงานและการได้ยินของผู้ปฏิบัติงานเป็นประจำ
2.การป้องกันอันตรายจากความร้อนและการแผ่รังสี มีการตรวจวัด หาจำนวนคนที่สัมผัสเพื่อควบคุมป้องกัน
9. จุดมุ่งหมายของโครงการป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงานและเทคนิคความปลอดภัยในการทำงานคืออะไร
ตอบ 1. จัดสถานที่ทำงานให้ปลอดภัย 2. จัดระบบการทำงานให้ปลอดภัย
10. เทคนิคในการจัดระบบการทำงานให้ปลอดภัยมีอะไรบ้าง
ตอบ 1.การออกแบบโรงงานหรือเครื่องจักรที่ปลอดภัย มึอุปกรณ์ป้องกัน มัพื้นที่หนีไฟ ดับไฟ
2.การเลือกทำเลสถานที่ตั้งโรงงานและการก่อสร้างตามแบบมาตรฐาน เดินทางสะดวก ไม่ก่อปัญหาต่อชุมชน
3.การวางแผนติดตั้งเครื่องจักรที่ปลอดภัย เป็นระเบียบ ไม่ชิดกันเกินไป
4.การเลือกเครื่องมืออุปกรณ์ประกอบการทำงานได้เหมาะสมและปลอดภัย มีการอบรมการใช้งานและบำรุงรักษา
5.กำหนดการเกี่ยวกับการบำรุงรักษาโรงงาน เครื่องจักร อุปกรณ์อยู่เสมอต่างๆให้มีประสิทธิภาพ
6.ควบคุมสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ดี เช่น มีการระบายอากาศ แสงสว่างเหมาะสม เสียงไม่ดังเกินไป
7.มีระบบการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานก่อนเข้าทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ คัดเลือกคนให้เหมาะกับงาน มีการส่งเสริมให้โต
8.ให้จัดระบบความปลอดภัยในโรงงานขึ้น มีนโยบายความปลอดภัยและกฎระเบียบในการทำงาน
9.วางแนวทางในการส่งเสริมความก้าวหน้าของผู้ปฏิบัติงาน
10.การบริหารหรือการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล มีการจัดระบบ การเลือกใช้ การบำรุงรักษา
11.เลือกใช้วิธีการที่ดีปลอดภัยที่สุดให้ผู้ปฏิบัติงาน และจัดทำเป็นคู่มือการปฏิบัติงาน
12.มีการทบทวนวิธีการทำงานเป็นประจำ มีการปรับปรุงวิธีการทำงาน มีการลดการใช้สารพิษ มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วย
13.ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการรายงานผล มีการสร้างเครือข่ายความปลอดภัย
#คลิ๊กดูแนวข้อสอบราชการที่ www.โหลดแนวข้อสอบราชการ.com
#รวมข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมโดยอาจารย์ของสถาบัน
#เจาะลึกครอบคุมตรงประเด็น เนื้อหาสาระสำคัญ ข่าวสารทันโลก
#จำหน่ายแนวข้อสอบมานานกว่า 10 ปี การรันตีจากผู้สอบติดมากมาย
#รวมหนังสือหรือไฟล์ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาไปนั่งติว
แนวข้อสอบมี 2 รูปแบบ
1.แบบที่ 1 รอรับได้เลย ราคาเพียง 399 บาท (รอรับ 1-2 ชม หลังโอน)
2.แบบที่ 2 หนังสือ **ฟรี MP3** ราคา 699 บาท (ส่งฟรีขนส่งเอกชน)
ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ
Line ID : Panisara_test หรือคลิ๊กสั่งซื้อทันที
ชำระค่าสินค้าและบริการ
-ธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 983-0-97701-3
-ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 549-2-17930-4
(ชื่อบัญชี ปาณิสรา พระกาย ออมทรัพย์ สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น)